Thursday, December 4, 2014

รูปแบบของการประเมินหลักสูตรของสตัฟเฟิลบีม(Stufflebam)


                แดเนียล แอล สตัฟเฟิลบีม (Daniel L. Stufflebam) ได้อธิบายความหมายของการประเมินผลทางการศึกษาเอาไว้ว่าเป็นกระบวนการการบรรยายการหาข้อมูล และการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจหาทางเลือก รูปแบบการประเมินของสตัฟเฟิลบีมเป็นรูปแบบที่เหมาะสมแก่การช่วยตัดสินใจเพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุด
ตามปกติสถานการณ์ในการตัดสินใจ จะประกอบไปด้วยมิติที่สำคัญ 2 ประการ
                1.มิติด้านข้อมูลที่มีอยู่ (
Information Grasp)
                2.มิติด้านปริมาณความเปลี่ยนแปลงที่ต้องการให้เกิดขึ้น (Degree of Change)
                จากรูปแบบการประเมินผลหลักสูตรตามแนวคิดของสตัฟเฟิลบีมแสดงให้เห็นว่า
                1.สถานการณ์ตัดสินใจที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่ทว่าข้อมูลที่จะช่วยในการตัดสินใจนั้นมีอยู่มาก สถานการณ์ตัดสินใจอย่างนี้เรียกว่า
Homeostatic
                2.สถานการณ์ตัดสินใจที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย และข้อมูลที่จะช่วยในการตัดสินใจนั้นมีอยู่น้อย สถานการณ์ตัดสินใจอย่างนี้เรียกว่า Incremental
                3.สถานการณ์ตัดสินใจที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และข้อมูลที่จะช่วยในการตัดสินใจนั้นมีอยู่น้อย สถานการณ์ตัดสินใจอย่างนี้เรียกว่า Neomobilistic
                4.สถานการณ์ตัดสินใจที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และข้อมูลที่จะช่วยในการตัดสินใจนั้นมีอยู่มาก สถานการณ์ตัดสินใจอย่างนี้เรียกว่า Metamorphism
                จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า การตัดสินใจไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลเชิงประมาณ (Evaluation Data) มาช่วยเป็นพื้นฐาน ในการตัดสินใจ

                ถ้าพิจารณาในแง่ของวิธีการกับผลที่เกิดขึ้นและสิ่งที่คาดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เราอาจจำแนกการตัดสินใจได้เป็น 4 ประเภท คือ


สตัฟเฟิลบีมได้ให้แนวคิดไว้ว่า การประเมินผลหลักสูตรนั้นมีสิ่งสำคัญที่เราต้องประเมินอยู่ 4 ด้าน คือ
                1.การประเมินสภาพแวดล้อม (
Context Evaluation) ในการประเมินสภาพแวดล้อมนี้ ผู้ประเมินอาจใช้วิธีดังต่อไปนี้
                                1.1 การวิเคราะห์ความคิดรวบยอด
                                1.2 การทำวิจัยด้วยการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์จริงๆ
                                1.3 การอาศัยทฤษฎีและความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
                2.ประเมินตัวป้อน (
Inputs Evaluation) อาจทำได้โดย
                                2.1 จัดทำในรูปแบบของขณะกรรมการ
                                2.2 อาศัยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่มีผู้ทำเอาไว้แล้ว
                                2.3 ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษา
                                2.4 ทำการวิจัยเชิงทดลองเป็นการนำร่อง
                3.การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) มีด้วยกันหลายวิธี
                                3.1 การสังเกตแบบมีส่วนร่วมปฏิบัติ
                                3.2 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์
                                3.3 การสัมภาษณ์
                                3.4 การใช้แบบสอบถามประเภทมาตราส่วนประมาณค่า
                                3.5 การเขียนรายงานประเภทปลายเปิด
                4.การประเมินผลผลิต (
Products Evaluation)

No comments:

Post a Comment